วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เคล็ดลับในการเลือกซื้อรถยนต์มือสอง


ใครที่กำลังมองหารถยนต์มือสองไว้ใช้งาน

คุณทราบวิธีในการเลือกซื้อรถยนต์มือสองแล้วหรือยัง หากยังไม่ทราบ วันนี้เรามีเคล็ดลับในการเลือกซื้อรถยนต์มือสองไว้ใช้งานมาแนะนำ

1. สุมดประวัติประจำรถ สุมดประวัติประจำรถทำให้เราทราบถึงความเป็นมาของรถ หากรถมีการผ่านมือหรือถูกซ่อมส่วนใดบ้างก็สามารถตรวจสอบได้จากสุมดประวัติประจำรถ แต่เมื่อมีการซื้อรถมือสอง มักไม่ค่อยมีสุมดประวัติประจำรถให้ เพราะเนื่องจากกลัวลูกค้าเสียความมั่นใจ และไม่ซื้อ เพราะรถบางคันผ่านมาแล้วหลายมือ และมีการซ่อมมาอย่างโชกโชน

2. เจ้าของรถ คุณควรดูเจ้าของรถคันเดิมว่ามีการใช้งานรถอย่างไร เช่น ถนอมหรือดูแลรักษารถหรือไม่ ในกรณีที่ซื้อจากเต้นท์รถมือสอง ควรตรวจดูสภาพรถมากกว่า เพราะคุณอาจไม่รู้แน่ชัดว่าเจ้าของรถยนต์คันเก่าคือใคร และดูแลรักษารถหรือไม่

3. รถยนต์ผ่านมาแล้วกี่มือ หากผ่านมาแล้วหลายมือ ก็ไม่ควรซื้อ เพราะรถอาจมีปัญหาสะสมมามาก

4. ตัวเลขบอกระยะในการใช้รถ ในการซื้อรถยนต์มือสองควรตรวจดูเลขไมล์ โดยไม่ควรให้เกินสามหมื่นกิโลเมตร หากมากกว่านี้แสดงว่าเครื่องยนต์ถูกใช้งานมาอย่างหนัก เพราะโดยปกติการใช้รถไม่ควรจะมากกว่าสามหมื่นกิโลเมตรต่อปี

5. สภาพภายในห้องเครื่องยนต์ ภายในห้องเครื่องยังคงใช้การได้ดี เช่น ระบบไฟต่าง ๆ ให้ทดลองเปิดใช้งานและดูการแสดงผลที่หน้าปัด เบาะนั่งยังสามารถใช้การในสภาพที่ดี เช่น สามารถปรับเปลี่ยนระดับได้

6. สภาพภายนอก ตรวจสอบสภาพตัวถัง หากมีสีลอก ตัวถังผุพัง กันชนบุบ ก็ไม่ควรซื้อ เพราะหากซื้อไปก็มิวายที่จะต้องซ่อมใหม่

7. รถผ่านการทำสีมาหรือไม่ รถที่ควรทำสีใหม่ คือ รถที่มีอายุ เกิน 15 ปีขึ้นไป หากมีการทำสีมาก่อนหน้านั้น แสดงว่ารถไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ สำหรับการทดสอบว่ารถที่คุณกำลังจะซื้อนั้น ผ่านการทำสีมาใหม่หรือไม่ ทดสอบได้โดยการใช้สันมือเคาะเบา ๆ ถ้าเสียงโปรงแสดงว่าไม่ได้ทำสีใหม่ ถ้าเสียงโปร่งบ้างทึบบ้างแสดงว่ามีบางส่วนที่ทำสีใหม่ แต่ถ้าทึบหมดทั้งคันแสดงว่าทำมาหมดทั้งคัน ข้อสังเกตของการทำสีรถใหม่ สีที่ทำใหม่จะไม่ทน ทาน เช่น อาจมีการซีดหรือด้าน จะเห็นผลภายใน 2 – 3 ปี

8. ประวัติรถ สืบประวัติรถที่จะซื้อให้ดี เพราะรถบางคันอาจผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วง เช่น รถชน ประสบอุบัติเหตุอย่างหนัก สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะล้วนมีผลต่อการใช้งาน

9. ซื้อรถจากเจ้าของดีกว่าซื้อจากเต้นท์รถหรือพ่อค้าคนกลาง หากซื้อผ่านพ่อค้าคนกลาง พ่อค้าคนกลางอาจโอนเป็นชื่อของตนเองหรือโอนลอยไว้ ในขณะที่รอคนมาซื้อ อะไหล่ชิ้นดีบางอย่างอาจถูกเปลี่ยนออกไป แล้วเอาของไม่ดีมาใส่แทน เช่น เครื่องเสียง อุปกรณ์ความปลอดภัย หรืออุปกรณ์ที่สามารถนำไปขายแยกส่วนได้ ในส่วนของเต้นท์รถ มักจะขายรถในราคาแพงกว่าท้องตลาด ประมาณ 25,000-50,000 บาทต่อคัน ฉะนั้นหากต้องการซื้อจริง ๆ ก็ควรตรวจสอบและชั่งน้ำหนักให้ดีก่อนว่าซื้อแล้วจะสามารถใช้งานได้คุ้มค่าหรือไม่

10. หากซื้อรถจากเต้นท์จะต้องนำรถออกเต้นท์ทันที เพราะขืนนิ่งนอนใจ ชิ้นส่วนดี ๆ ที่คุณดูเอาไว้ อาจจะหายไปในข้ามคืน เพราะเจ้าของเต้นท์สั่งเปลี่ยนแล้วเอาของด้อยคุณภาพมาใส่แทน เช่น เครื่องเสียง ล้อแม็กซ์ ยาง เครื่องยนต์ ถึงเวลานั้นจะมานั่งเสียใจก็คงสายไปแล้ว

11. ต้องรีบโอนรถให้เรียบร้อย หากซื้อรถจากเจ้าของแล้ว ควร นำรถออกทันที แต่ถ้าซื้อรถจากเต้นท์จะต้องทำสัญญาซื้อขายให้ดี ขอใบเสร็จรับเงินให้เรียบร้อย ถ้านัดไปโอนทะเบียนภายหลังจะต้องกำหนดเวลาการโอนในสัญญาซื้อขายอย่างแน่นอน เพราะไม่เช่นนั้นคุณอาจถูกโกงได้

การเลือกซื้อรถยนต์มือสองอาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิด แต่ต้องใช้ความรอบคอบและสติในการเลือกซื้อสักนิด อย่าเห็นแก่เป็นของถูก หรืออยากได้แต่ของดีขอให้มีราคาถูก เพราะของพวกนี้อาจไม่มีในโลก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น